ASUS Zenfone Go TV สมาร์ทโฟนพร้อมชมทีวีดิจิตอล
|คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันชีวิตคนในเมืองใหญ่ต้องใช้ชีวิตนอกบ้านมากกว่าในบ้าน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่การจราจรคับคั่ง เราก็มักจะฆ่าเวลาด้วยการหยิบสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตขึ้นมาเล่น อาจจะเล่น Facebook ดู Youtube แชททาง Line รวมถึงดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งการดูทีวีเนี่ยก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อใช่ไหมครับ ถ้ามี Wi-Fi ก็สบายหน่อยแต่ถ้าไม่มีก็อาจทำให้โควต้าเล่นเน็ตของเราลดลงฮวบฮาบได้เช่นกัน และสมาร์ทโฟนที่ดูทีวีดิจิตอลได้เนี่ยในบ้านเรายังมีไม่กี่รุ่นเองครับ (แบรนด์ที่ทำตลาดในบ้านเราก็คือ iMobile ครับ) แต่ว่าล่าสุดแบรนด์ ASUS ก็ส่งสมาร์ทโฟนในซีรีย์ Zenfone ออกมาชิงตำแหน่งสมาร์ทโฟนที่สามารถดูทีวีดิจิตอลได้ในรุ่น ASUS Zenfone Go TV
ASUS Zenfone Go TV สมาร์ทโฟนพร้อมชมทีวีดิจิตอล
สำหรับสมาร์ทโฟนในซีรีย์นี้จะเป็นสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งภาครับสัญญาณทีวีดิจิตอลในตัวเครื่อง ทำให้สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้จากในตัวเครื่องเลยครับ โดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยตามขนาดหน้าจอ คือ 4.5 นิ้ว (รหัส ZB452KG) และขนาด 5.5 นิ้ว (รหัส ZB551KL) โดยรูปทรงภายนอกจะใกล้เคียงกับโมเดลของ Zenfone 2 มีความโค้งมนของขอบ ใช้วัสดุหลักเป็นพลาสติกสังเคราะห์
ราคาที่จับต้องได้
สนนราคาของ Zenfone Go TV จะแพงกว่ารุ่นที่ไม่มีดิจิตอลทีวีอยู่ประมาณ 3 – 5 ร้อยบาทครับ โดยสนนราคาตามนี้
ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ( ZB551KL)
- รุ่นปกติ 5,490 บาท (2GB/32G ROM)
- รองรับทีวีดิจิตอล 5,990 บาท (2GB/32G ROM)
ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว ( ZB452KG)
- รุ่น UV 2,990 บาท
- รุ่น IMR 3,290 บาท
ประสิทธิภาพ
รายละเอียดด้านสเปคของทั้งสองรุ่นตอนแรกผมนึกว่าจะต่างกันแค่หน้าจอซะอีก (แอบหวังให้ Asus ทำหน้าจอเล็กแต่สเปคแรงเหมือน iPhone SE มั่ง…แต่ฝันสลายไปแล้ว) โดยราคาที่ต่างกันเกือบ 3 พัน ทำให้สเปคห่างกันพอตัว เอาล่ะเรามาว่ากันทีละตัวดังนี้นะครับ
ASUS Zenfone Go TV 4.5
น้องเล็กของซีรีย์ Zenfone ในปัจจุบัน และน่าจะเป็นตัวอัพเกรดของ Zenfone C ครับ โดยระดับราคาตั้งไว้สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการประสิทธิภาพที่มากมายอะไรนอกจากการใช้งานประจำวัน หรือใช้เป็นโทรศัพท์เครื่องสำรอง เอาไว้ซื้อให้ลูกหลานใช้ (เวลาหายไปก็ไม่ต้องเสียดายเงินมากนัก) แต่มีจุดขายที่ชัดเจนคือรองรับทีวีดิตอล โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการรับชมครับ
สเปคที่สำคัญ
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop + ZEN UI
- รองรับ 2 ซิม (Micro Sim)
- หน่วยประมวลผล Qualcomm® MSM8212 Quad Core Processor
- แรม 1 GB
- รอม 8 GB (รองรับ Micro SD Card)
- หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว FVGA (480 x 854 พิกเซล)
- รุ่น UV
- กล้องหน้า : 3 แสนพิกเซล
- กล้องหลัง : 5 ล้านพิกเซล
- Real Time Beautification
Auto Focus
Wide View
LED Flash
F2.0 Aperture
Zero Shutter Lag
Low Light mode
Night mode
Depth of field
Selfie mode
Photo Effects
Panorama mode
Miniature
Time Rewind
Smart Remove
All Smiles
Time Lapse
HDR mode
GIF animation
- Real Time Beautification
- รุ่น IMR
- กล้องหน้า : 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง : 8 ล้านพิกเซล
- Real Time Beautification
Auto Focus
Wide View
LED Flash
F2.0 Aperture
Low Light mode
Night mode
Depth of field
Selfie mode
Photo Effects
Panorama mode
Miniature
Time Rewind
Smart Remove
All Smiles
Time Lapse
HDR mode
GIF animation
- Real Time Beautification
- แบตเตอรี่ 2070 mAh
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 n, Bluetooth 4.0
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก
ASUS Zenfone Go TV 5.5
สำหรับรุ่นจอ 5.5 นิ้ว นั้นให้สเปคมาใกล้เคียงกับ Zenfone 2 Laser เลยล่ะครับ แต่ว่าตัดส่วนของ Laser Auto Focus ออกมาเป็นชิพสำหรับรับสัญญาณทีวีดิจิตอลแทน โดยรวมนั้นนับว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบายๆเลยครับ
สเปคที่สำคัญ
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop + ZEN UI
- รองรับ 2 ซิม (Micro Sim)
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400 MSM8928 Qual Core 1.4GHz
- แรม 2 GB
- รอม 32 GB (รองรับ Micro SD Card 64 GB)
- พร้อม 100 GB ASUS Webstorage lifetime
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว HD (1280 x 720 พิกเซล)
- กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล (f2.0)
- กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล PixelMaster, Dual-LED Flash
- แบตเตอรี่ 3,100 mAh
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก
การใช้งานที่เหมาะสม
โดยรวมสเปกที่จัดมาให้นับว่าสมกับราคาค่าตัวครับ โดยรุ่น 4.5 นิ้ว น่าจะเหมาะสำหรับคนที่หาเครื่องไว้ใช้สำรองหรือคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดเล็ก พกพาใส่กระเป๋าได้สะดวก และมีราคาไม่แพง
แต่ถ้าให้ความคุ้มค่าผมมองว่ารุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้วน่าจะตอบสนองได้ดีกว่าครับ เนื่องจากจอที่ใหญ่กว่า เอาไว้รับชมทีวีหรือดูหนัง เล่นเกมส์ ก็เต็มตามมากกว่า ส่วนรอมภายในให้มาเยอะ 32 GB เพียงพอต่อการลงแอพและเกมจำนวนมากสบายๆครับ ส่วนกล้องให้มา 13 ล้านพร้อมเทคโนโลยี Pixel Master สำหรับถ่ายรูปในที่แสงน้อยครับ
ความคิดเห็นของบล็อกเกอร์
นี่คงเป็นอีกหนึ่งไลน์การผลิตที่ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่สามารถดูทีวีดิจิตอลได้ ซึ่งถ้าอยู่ในกทม.หรือในเมืองใหญ่ คงไม่น่าห่วงเรื่องสัญญาณทีวีเท่าไร แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัดอาจต้องพิจารณาถึงความแรงของสัญญาณด้วยนะครับ
ที่มา: Asus.com